11/28/2556

น่าจะรู้อย่างนี้ ตั้งแต่ตอนอายุ 20 (What I Wish I Knew When I Was 20)


เคล็ดลับพัฒนาความคิดและพลิกปัญหาให้เป็นโอกาส ที่สั่งตรงจากรั้วสแตนฟอร์ด ซึ่งไม่ว่าคุณจะกำลังตกอยู่ในสภาวะเคว้งคว้าง สับสน ไม่แน่นอนและไม่รู้ว่าจะเลือกทางเดินชีวิตอย่างไรดี ...หรือหลาย ๆ คนที่เลือกเส้นทางผิด จนต้องรู้สึกเสียดายทุกครั้งเมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต แต่นั่นไม่ใช่ชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดแน่นอน 

เพราะพวกเขาได้เรียนรู้เคล็ดลับเพื่อการเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตการทำงานและทำธุรกิจ ผ่านไอเดียการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ ให้เป็นไปได้ ในการทำแบบฝึกหัดที่ใครได้ยินแล้วต้องทึ่ง อย่างเช่น จากเงินเริ่มต้น 5 ดอลลาร์ (150 บาท) สามารถสร้างรายได้เป็น 650 ดอลลาร์ (เกือบ 20,000 บาท) ภายในเวลา 2 ชั่วโมง!! นอกจากนี้ยังทำให้ได้รู้จักกับคนคนหนึ่งที่ใช้คลิปหนีบกระดาษสีแดง 1 ตัว ที่สามารถแลกบ้านมาได้ 1 หลัง ในเวลา 1 ปี !! และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นแบบฝึกหัดสุดทึ่ง ซึ่งทุกอย่างล้วนถูกรวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี้แล้ว

      แนวคิดในหนังสือเล่มนี้นั้น ส่วนใหญ่จะตรงข้ามกับบทเรียนที่สอนกันในระบบการศึกษา เพราะในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยนั้น นักเรียนมักถูกตัดสินจากการประเมินด้วยคะแนนแบบอิงกลุ่ม ซึ่งแปลว่า เมื่อใครคนหนึ่งชนะ อีกคนหนึ่งต้องแพ้ แต่ในความเป็นจริง ในโลกของการทำงานแบบองค์กร ผู้คนมักจะทำงานเป็นทีม ซึ่งหมายความว่า ถ้าใครคนหนึ่งในทีมชนะ คนอื่นๆก็จะชนะไปด้วย เป็นต้น นี่เป็นข้อเท็จจริงหนึ่งอย่าง ซึ่งคุณพบเจอกันอยู่แล้ว

ส่วนแนวคิดที่น่าสนใจ ที่จะขอยกมาเสิร์ฟ สักเล็กน้อย จากหนังสือเล่มนี้ เช่น

  •  สาเหตุที่ Google เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ก็เพราะความเต็มใจที่เข้าไปจัดการปัญหายาก ๆ โดยที่ยังไม่มีใครเข้าไปแก้ไข
  • ในโลกของเรามีคนอยู่ 2 แบบ คือ คนที่ต้องรอให้คนอื่นอนุญาตก่อนลงมือในสิ่งที่อยากทำ และคนที่อนุญาตตัวเอง ให้ทำในสิ่งที่อยากทำ
  • แม้แต่แนวคิดที่ยอดเยี่ยมก็ยังต้องอาศัยการทำงานหนักจึงจะประสบความสำเร็จได้ และสิ่งที่ท้าทายคือ คุณต้องรู้ให้ได้ว่าคุณกำลังทุ่มเทกับสิ่งที่จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่
  • กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จไม่ใช่การหลบลูกกระสุน แต่เป็นการฟื้นตัวให้ได้อย่างรวดเร็วเมื่อถูกยิงต่างหาก!!!
  • บางครั้งความพยายามที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยก็สามารถพลิกความล้มเหลวให้เป็นความสำเร็จได้แล้ว
  • จริงๆแล้ว โชคดี ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สามารถสร้างขึ้นมาได้จากเครื่องมือ ดึงดูดความโชคดี 4 ประการ (ถ้าอยากรู้ อ่านต่อในเล่มนะคะ^^)
  • คุณต้องทุ่มเทอย่างน้อย 100% เพื่อทำบางสิ่งให้เกิดขึ้น!!!


เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว คุณจะมองเห็นชัดเจนมากขึ้นว่า โอกาสอันไม่สิ้นสุดเกิดจากการดึงตัวเองออกจากเขตแดนแห่งความสบายใจ เต็มใจที่จะล้มเหลว และฉกฉวยทุกโอกาสเพื่อสร้างเรื่องน่าอัศจรรย์ เมื่อคุณได้ท้าทายสมมติฐานของตัวเองและอนุญาตให้ตัวเองมองโลกรอบตัว ว่าเต็มไปด้วยโอกาสและความเป็นไปได้เหลือคณานับทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ขอเพียงแค่คุณปรับมุมมองเสียใหม่ แล้วคุณจะก้าวข้ามหลุมพรางที่คนส่วนใหญ่ตกลงไป ไม่ว่าตอนนี้คุณจะมีอายุ 20, 30 40 หรือ 50 ปีก็ตาม แล้วชีวิตคุณจะไม่เหลืออะไรให้ต้องเสียดาย อีกต่อไป!!!

หนังสือ น่าจะรู้อย่างนี้ ตั้งแต่ตอนอายุ 20 (What I Wish I Knew When I Was 20) ผลงานของ Tina Seelig ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สำนักพิมพ์ We Learn 

สารบัญ

บทที่ 1 : ซื้อ 1 แถม 2 (มองปัญหาให้เป็นโอกาส)

บทที่ 2 : ละครสัตว์แบบกลับตาลปัตร (ตีลังกามองโลก)

บทที่ 3 : ซูชิหน้าแมลงสาบ (เปลี่ยนเรื่องเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้)

บทที่ 4 : โปรดหยิบกระเป๋าสตางค์ของคุณขึ้นมา (อย่ารอให้ใครอนุญาตให้คุฯประสบความสำเร็จ)

บทที่ 5 : ซอสปรุงรสสูตรลับของซิลิคอนวัลเลย์ (เหตุผลดี ๆ ที่ควรล้มเหลว)

บทที่ 6 : ไม่เอาหรอก...วิศวะน่ะมันเรื่องของผู้หญิง (ความสามารถ ความรักและความต้องการของตลาด)

บทที่ 7 : เปลี่ยนน้ำมะนาวให้กลายเป็นเฮลิคอปเตอร์ (วิธีสร้างโชคดีให้ตัวเอง)

บทที่ 8 : วาดเป้ารอบ ๆ ลูกธนู (เคล็ดลับที่จะทำให้คุณข้ามหลุมพรางที่คนส่วนใหญ่พลาดตกลงไป)

บทที่ 9 : นี่จะออกข้อสอบไหม (ถ้าอยากก้าวไปให้ไกล อย่าทำแค่พอผ่าน)

บทที่ 10 : สิ่งแปลกปลอมในการทดลอง (สิ่งที่ฉันน่าจะรู้ตั้งแต่อายุ 20)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น