11/28/2556

ตาดู หูฟัง สมองซื้อ มือจ่าย (Buyology)


หนังสือที่ตีแผ่พลังลึกลับที่ผลักดันให้คุณควักกระเป่าซื้อโดยไม่รู้ตัว!! การันตีด้วย “The New York Times Bestseller”

เคยไหม...ที่ซื้อของบางอย่างมา แต่พอถึงบ้านกลับนึกไม่ออกว่า ซื้อมาทำไม?

เคยไหม...ที่จดรายการของที่ต้องซื้อเอาไว้ แต่ดันซื้อของนอกรายการกลับมาเต็มไปหมด

เคยไหม...ที่เจอสินค้าหน้าตาน่าเกลียด แต่พอเห็นคนใช้มาก ๆ เข้าก็รู้สึกอยากได้ขึ้นมาบ้าง

...ถ้าเคย นั่นหมายความว่า สมองของคุณ โดนพลังงานลึกลับบางอย่างเล่นงานเข้าให้แล้ว!!

ยอมรับกันมาเถอะว่า เราทุกคนต่างก็เป็นผู้บริโภค กันทั้งนั้น และที่สำคัญคือ เราต่างก็คุ้นเคยกับการ โฆษณา ที่ในทุกวันนี้แทบจะมีอยู่ทุกที่ทุกตารางเมตร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ เพราะจากการวิจัยของ Martin Lindstrom ได้ทำการพิสูจน์มาแล้วว่า คนเรามักจะได้ดูการโฆษณา อย่างน้อย 2 ล้านชิ้น (นับตั้งแต่เกิดจนอายุ 66 ปี) หรือเทียบได้ว่าดู 24 ชม. ต่อวัน  เป็นเวลา 7 วันต่อสัปดาห์ และติดต่อกันทุกสัปดาห์เป็นเวลา 6 ปีเลยทีเดียว  ในขณะที่ความทรงจำระยะสั้นของเรานั้นก็มีพื้นที่อันจำกัด ดังนั้นการจดจำอะไรบางอย่างที่ผ่านเข้ามา สมองจึงต้องทำการกรองเฉพาะสิ่งสำคัญ ๆ เท่านั้น (ตัดสิ่งไม่จำเป็นออกไป ซึ่งทำให้เราเกิดการหลงลืม นั่นเอง)

ในบางครั้ง การที่เราตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่มีหลายยี่ห้อวางอยู่ข้างกัน ได้ในเวลา 2 วินาที นั้น เราคงคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นสัญชาตญาณหรือ ก็แค่อยากซื้อ ไม่มีเหตุผลที่เลือก แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นความรู้สึกแบบ ควันหลง ที่เราได้รับอิทธิพลมาจากโฆษณาที่เราเพิ่งดูก่อนหน้านี้ และนั่นทำให้การตัดสินใจของผู้บริโภคกว่า 50% ตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างฉับพลันโดยที่ไม่รู้ตัว
หรืออีกแง่หนึ่งเรื่องของการตลาดแบบที่เราปฏิบัติอยู่โดยที่ไม่รู้ตัวเลย เช่น การซื้อ โค้ก คู่กับ ป็อบคอร์น เวลาเข้าโรงหนัง หรือวิธีกินโอรีโอ ที่บอกว่า บิด ชิมครีม จุ่มนม ...เหล่านี้ เป็นการตลาดทั้งสิ้น แต่ผู้บริโภคอย่างเรามักจะคล้อยตามไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็แค่ทำตาม ๆ กันไปเป็นกระแสนิยม หรือแม้กระทั่งความเชื่อที่เรายึดถือกัน เช่น วันศุกร์ที่ 13 เป็นวันแห่งโชคร้าย ที่ทำให้บางประเทศถึงกับมียอดการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าวันอื่น ๆ อย่างมหาศาล หรือเลข 4 ที่ถือเป็นเลขอัปมงคลของชาวเอเชียที่คล้ายกับ ซี้ ที่แปลว่า ตาย ในภาษาจีน นั่นเอง นี่ก็เป็นตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง กับ การตลาดเชิงประสาทวิทยาที่ผู้เขียนนั้นวิจัยและศึกษามาด้วยตัวเองเพื่อพิสูจน์พฤติกรรมของผู้บริโภค

...ภาพสยดสยองบนซองบุหรี่กระตุ้นให้เกิดความอยากสูบบุหรี่มากขึ้น, โฆษณาที่เน้นความเซ็กซี่ทำให้เราจดจำสินค้าได้น้อยลง, ภาพลูกหมาบนห่อกระดาษชำระกระตุ้นให้คุณอยากซื้อมันมากขึ้น, แบรนด์แอปเปิ้ลกระตุ้นสัญชาตญาณในการสืบพันธุ์ของคุณ หรือ กลิ่นขนมปังอบใหม่ ๆ ตรงทางเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้คุณซื้อของมากกว่าที่ตั้งใจ เป็นต้น สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่ามันคงไม่มีเหตุผลใช่ไหมล่ะ? แต่คุณคิดผิด เพราะทุกอย่างนี้ล้วนมีสิ่งลึกลับบางอย่างผลักดันอยู่เบื้องหลัง ซึ่งสิ่ง ๆ นี้ ได้รับการรับรองจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เรียบร้อยแล้ว

หรือแม้กระทั่ง คุณผู้หญิงทั้งหลายที่ชอบ ช้อปปิ้งจึงมักจะต้องควักกระเป๋าอยู่เรื่อยไปโดยที่ไม่รู้ตัว!! ถ้าคุณเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และอยากรู้สาเหตุของพฤติกรรมที่ทำให้กระเป๋าแฟบอยู่บ่อย ๆ ล่ะก็ 

ห้ามพลาดหนังสือเล่มนี้ค่ะ ตาดู หูฟัง สมองซื้อ มือจ่าย (Buyology) ผลงานของ Martin Lindstrom ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดชั้นนำระดับโลก และเป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกอีกด้วย ของสำนักพิมพ์ We Learn 

สารบัญ

บทที่ 1 : เลือดขึ้นสมอง (การวิจัยด้านการตลาดเชิงประสาทวิทยา ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์)

บทที่ 2 : ตรงนี้แหละใช่เลย (การโฆษณาแฝง อเมริกันไอดอล และความผิดพลาดมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ของฟอร์ด)

บทที่ 3 : ฉันขอแบบที่โต๊ะโน้นสั่ง (เซลล์กระจกเงาออกปฏิบัติการ)

บทที่ 4 : ฉันชักมองอะไรไม่ค่อยชัดแล้วสิ (ข้อความซ่อนเร้นยังไม่หายไปไหน)

บทที่ 5 : คุณเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติหรือเปล่า (ธรรมเนียม ความเชื่อโชคลาง และเหตุผลที่เราซื้อของ)

บทที่ 6 : ฉันขอตั้งจิตอธิษฐาน (ศรัทธา ศาสนา และแบรนด์)

บทที่ 7 : เพราะอะไรฉันถึงเลือกเธอ (พลังของเครื่องหมายในสมอง)

บทที่ 8 : มหัศจรรย์แห่งประสาทสัมผัส (จู่โจมประสาทสัมผัสของเรา)

บทที่ 9 : คำตอบก็คือ... (การตลาดเชิงประสาทวิทยากับการคาดการณ์อนาคต)

บทที่ 10 : คืนนี้อยู่ด้วยกันนะ (เซ็กซ์ในการโฆษณา)

บทที่ 11 : บทสรุป (วันใหม่ป้ายแดง)




1 ความคิดเห็น: